"I took aim but couldn't shoot a wounded man so I let him go."
ผมเล็งไปที่เขา แต่ผมไม่สามารถยิงคนที่บาดเจ็บอยู่ได้ ดังนั้น ผมจึงปล่อยเขาไป
Private Henry Tandy is a British soldiers who mercy spared German soldiers in World War I. The one of them is "Adolf Hitler." #The Nazi dictator who led the world into World War II.
Later, he realized that the German soldiers who survived because of his kindness...one of them is a German military officer named "Adolf Hitler" are also included.
ต่อมา เขาก็ได้รู้ว่าหนึ่งใน...ทหารเยอรมันที่รอดชีวิตไปจากความเมตตาของเขานั้น มีผู้หมู่ทหารเยอรมันนายหนึ่งที่ชื่อ "อดอล์ฟ ฮิตเลอร์" รวมอยู่ด้วย
Tandy had said before he died in 1977. (at the age of 86 years)
แทนดี้ได้กล่าวก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปี 1977 เมื่ออายุ 86 ปี ว่า
"only I had known what he would turn out to be. When I saw all the people, woman and children, he had killed and wounded I was sorry to God I let him go"
ถ้าเพียงแต่เขาจะรู้ว่า ฮิตเลอร์จะกลายเป็นอะไรในอนาคต...ทุกครั้งที่เขาเห็นผู้คน ผู้หญิงและเด็ก ที่บาดเจ็บล้มตายจากสงคราม...เขารู้สึกผิดต่อพระเจ้าเสมอ ที่ได้ปล่อยให้ฮิตเลอร์มีชีวิตต่อไปในวันนั้น
Hitler never forget the moment that a man who spared his life.
When he was a Prime Minister of Germany in the year 1933.
เมื่อฮิตเลอร์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเยอรมันในปี 1933
He gave his staff to find Tandey and published a drawings that illustrate Tandey carry a wounded soldiers on his back. เขาให้เจ้าหน้าที่ของเขาติดตามหาแทนดี้โดยได้มีการตีพิมพ์ภาพวาดที่แสดงให้เห็นถึงช่วงที่แทนดี้ #แบกทหารที่ได้รับบาดเจ็บบนหลังของเขา
Hitler had a feeling that English is special because of this event.
ฮิตเลอร์มีความรู้สึกที่ดีต่ออังกฤษเป็นพิเศษ เพราะว่าเหตุการณ์ที่ว่านี้
He appreciated Tandey and took this picture hung in his private office.
เขาชื่นชมความดีของแทนดี้มากขนาดที่แขวนภาพเหตุการณ์นั้นไว้ในห้องทำงานส่วนตัวของเขา
I do not admired Hitler at all but I understand the causes of World War II.
ฉันไม่ได้ชื่นชมอะไรฮิตเลอร์เลยแม้แต่น้อย แต่ว่าเข้าใจสาเหตุของสงครามโลกครั้งที่ 2
German Empire fall by the Treaty of Versailles, the people must be shamed for pride in the nation, lost territories and colonies, economic collapse, high inflation , foreigners coming into a lot of benefits and want Germany to fell permanently....unable to revive.
จักรวรรดิเยอรมันต้องล้มสลายจากสนธิสัญญาแวร์ซายส์ประชาชนต้องอยู่อย่างอับอายเสียความภาคภูมิใจในชาติ...เสียดินแดนอาณานิคม
เศรษฐกิจพังทลาย อัตราเงินเฟ้อสูงลิ้ว เงินกลายเป็นกระดาษ
ต่างชาติเข้ามาตักตวงผลประโยชน์ต้องการให้เยอรมันล้มลงอย่างถาวรไม่สามารถฟื้นคืน
All of this is the "fuel" to the fire of wars.
ทั้งหมดนี้เป็น "เชื้อไฟ" ให้เกิดสงครามได้ทุกเมื่อ
Even without "Hitler" lead, someone would come to seize up to power and declared war anyway.
แม้ไม่มี"ฮิตเลอร์"เป็นผู้นำก็จะมีคนอื่นเข้ามาฉวยโอกาสขึ้นสู่อำนาจและประกาศสงครามอยู่ดี
Jews do not deserve to die.
National military did not deserve to die.
ทหารรับใช้ชาติไม่สมควรตาย
Innocent people do not deserve to die.
ประชาชนตาดำๆก็ไม่สมควรตาย
But it is the "war", it was chaos that everybody was seeking benefits for themselves.
แต่มันคือ"สงคราม มันคือความวุ่นวายที่ทุกคนต่างแสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง"
When it comes to the point of war, human's life is valuable as a ink for statistics the number of death only. พอมันมาถึงจุดๆนี้ได้... ชีวิตมนุษย์ก็มีคุณค่าเพียงน้ำหมึกไว้ทำสถิติเท่านั้นเอง.
http://www.history.com/this-day-in-history/british-soldier-allegedly-spares-the-life-of-an-injured-adolf-hitler
http://www.mirror.co.uk/news/real-life-stories/henry-tandey-vc-man-who-3009915
http://www.birminghammail.co.uk/news/local-news/private-henry-tandey-birmingham-soldier-5824583