วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Lyudmila Mykhailivna Pavlichenko


"นักฆ่าหน้าหวาน"
ลูดมิลา มีคาอิลิฟนา พาบลิเชนโก(Lyudmila Mykhailivna Pavlichenko) 
#สไนเปอร์หญิงผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล สุดยอดนักแม่นปืนในตำนานอันดับสามของโลก
 
จำนวนศพทหารนาซีเยอรมันที่ร่วงจากน้ำมือเธอคนนี้ เท่าที่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการในการรบช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 คือ "309 ศพ" ในจำนวนนี้มีสไนเปอร์/ทหารซุ่มยิงเช่นเดียวกันกับเธอถึง 36 ศพ

เธอเกิดในวันที่ 12 กรกฏาคม 1916 ที่เมืองBelaya Tserko...v/เมืองบิลา เซอร์คอฟ มีความหมายว่า โบสถ์สีขาวรัฐUkrain(ช่วงนั้นยังรวมอยู่กับสหภาพโซเวียตรัสเซีย)
ต่อมาครอบครัวเธอย้ายไปที่เมือง Kiev ตอนที่เธออายุได้ 14 ปี ที่นั่นเธอเป็นสมาชิกสโมสรนักยิงปืนและเริ่มพัฒนาฝีมือ ขณะเดียวกันทำงานเป็นพนักงานประจำโรงงานสรรพาวุธที่ Kiev Arsenal factor

ในเดือนกรกฏาคม 1941 Pavlichenko อายุได้ 24 ปี กำลังศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาประวัติศาสตร์ที่ Kiev University ฮิตเลอร์ดันฉีกสัญญาไม่รุกรานกันระหว่างเยอรมัน-รัสเซีย ใช้ยุทธการบาบารอสซาโถมกำลังเข้าตีทหารแดง เปิดฉากถล่มโซเวียต
#เธอก็ตัดสินใจดร็อปเรียนปี4และอาสาร่วมรบโดยสมัครเป็นทหารราบเพื่อออกรบในแนวหน้า โดยทางเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อว่าจะใช้ปืนเป็น เธอจึงโชว์ศักยภาพในการยิงปืนของเธอ จนต่อมาได้ย้ายไปประจำกองทัพ Red Army’s 25th Rifle Division
และเพราะเธอเป็นนักยิงปืนที่่ผ่านการฝึกมาร่วมสิบปี 
เธอจึงใช้เวลาเพียง 2 เดือนครึ่งปลิดชีพทหารเยอรมันไปเกือบ 200 คน 
ตอนแรกเธอมิอาจทำใจให้ยิงข้าศึกได้ จนกระทั่งหนึ่งในพลทหารที่ยังเยาว์วัยที่อยู่ข้างตัวเธอถูกเป่าดิ้น ทำให้เธอหมดความลังเลใจในการยิงข้าศึกอีกต่อไป

ในเดือนมิถุนายน ปี 1942
เธอได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนครก
แต่เพราะตำแหน่งที่สูงขึ้นและเป็นที่รู้จักมากแล้ว
(ทหารซุ่มยิงเยอรมันนีก็พยายามจะล้างแค้นเอาคืนให้ได้)
เธอจึงถูกดึงตัวออกจากสนามรบไปไม่ถึงเดือน

หลังจากฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ Pavlichenko เดินทางไปเยี่ยมเยือนแคนาดากับสหรัฐอเมริกา ในปี 1942 ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลสหภาพโซเวียตรัสเซีย เธอเป็นประชาชน/พลเรือนคนแรกของรัสเซียที่ได้รับการต้อนรับจากประธานาธิบดีFranklin Roosevelt ที่ทำเนียบขาว
เธอพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ จึงต้องใช้ล่ามในการพบปะเจรจา เธอแต่งเครื่องแบบทหารตลอดเวลาจนสื่อมวลชนอเมริกาประเภทชั้นเลวเขียนข่าวแขวะเธอว่า"อ้วน กินจุ กินอาหารเช้าแบบอเมริกันถึง 5 ชุดในตอนเช้า ไม่แต่งหน้า ทาปากแต่อย่างใด
แต่งเครื่องแบบทหารหญิงรุ่มร่ามเพื่ออำพรางความอ้วน"
แต่เธอให้สัมภาษณ์ว่า "การแต่งเครื่องแบบทหารการให้เกียรติกับอดีตท่านผู้นำ Lenin"

ส่วนสื่อมวลชนอเมริกาที่ชื่นชมเธอขนานนามเธอว่า
ทหารหญิงซุ่มยิงที่เก่งที่สุดในโลกด้วยผลงาน 309 ศพ
ผู้บุกเบิกอาชีพทหารหญิง (
#ยุคนั้นอเมริกายังไม่มีทหารหญิง)
"ผู้มีบทบาทยกระดับและสถานะภาพสตรีให้เท่าเทียมกับบุรุษ"

หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงแล้ว
เธอกลับไปเรียนต่อที่ Kiev University
แล้วศึกษาต่อจนจบปริญญาโทประวัติศาสตร์ที่ Bohdan Khmelnytsky
โดยมีอาชีพเป็นนักประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ปี 1945 ถึง 1953
เธอยังเป็นผู้ช่วยวิจัยกองทัพเรือ Chief HQ of the Soviet Navy
ต่อมาได้ร่วมงานในคณะกรรมการทหารผ่านศึกโซเวียต
(Soviet Committee of the Veterans of War)

เธอได้รับรางวัลเหรียญดาวทองคำวีรสตรีของสหภาพโซเวียตรัสเซีย
(Gold Star of the Hero of the Soviet Union)
และมีการนำรูปถ่ายเธอมาเป็นสแตมป์สหภาพโซเวียตรัสเซียด้วย

เธอจากโลกนี้ในวันที่ 10 ตุลาคม คศ.1974/พ.ศ.2517 ที่กรุงมอสโคว์ สหภาพโซเวียตรัสเซีย มีอายุรวมได้ 58 ปี


https://en.wikipedia.org/wiki/Lyudmila_Pavlichenko
http://englishrussia.com/2012/03/08/outstanding-soviet-female-snipers-of-wwii/
http://pantip.com/topic/32475255
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?action=printpage;topic=107820.0
 

0 comments

แสดงความคิดเห็น